ถ้าทำเลคือกุญแจสู่ความสำเร็จของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ร้านอาหารก็เช่นเดียวกัน เพราะเวลาคุณทำการตลาดไม่ดี คุณยังสามารถปรับใหม่ได้ เวลาคุณบริการลูกค้าไม่ดี พรุ่งนี้คุณก็ยังแก้ตัวได้ แต่ถ้าหากคุณเลือกทำเลร้านผิดแล้ว คุณจะไม่สามารถแก้ไขอะไรมันได้เลย เรียกว่าพลาดแล้วพลาดเลย
.
ฉะนั้นการเลือกทำเลที่ตั้งของเราให้ถูกต้องตั้งแรกแรกจึงมีความสำคัญเป็นมาก ๆ เลย เหมือนที่คนเราแต่ละคนมีนิสัยใจคอแตกต่างกัน ทำเลก็เช่นกัน ก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือกทำเลใด ๆ ไปก็ตาม เราควรจะต้องรู้ถึงลักษณะ และธรรมชาติของแต่ละทำเลให้ดีก่อน จะทำให้เราสามารถตัดสินใจเลือกทำเลที่เหมาะกับร้านอาหารและกลุ่มลูกค้าของเราได้ตรงมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
.
SpaceCloud เลยจะพาไปดูกันว่าทำเลแต่ละย่าน มีลักษณะที่แตกต่างกันอย่างไร และกลุ่มลูกค้าในย่านนั้นมีพฤติกรรมอย่างไรบ้าง
SpaceCloud สามารถใช้งานได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย สนใจจองพื้นที่เพื่อเริ่มขายของปังๆได้ที่ https://app.getspacecloud.co/ หรือสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คอมเม้นท์หรือทัก inbox มาที่ https://m.me/getspacecloud ได้เลย
.
ทำเลย่านออฟฟิศ สำนักงาน เป็นทำเลที่มีกลุ่มลูกค้าชัดเจนคือ พนักงานออฟฟิศ แต่อาจมีกำลังซื้อแตกต่างกันในแต่ละทำเล ยิ่งเป็นทำเลที่อยู่ใจกลางเมืองอย่าง สาทร สีลม อโศก ฐานรายได้เฉลี่ยของกลุ่มลูกค้าก็อาจจะมากขึ้น ค่าเช่าก็อาจจะสูงขึ้นตามไปด้วย
.
ทำให้ราคาขายของร้านอาหารจะสูงกว่าย่านออฟฟิศสำนักงานที่อยู่ถัดออกมา เช่น ย่านพหลโยธิน ทาว์อินทาวน์ หรือแจ้งวัฒนะ
.
ร้านอาหารที่อยู่ในทำเลออฟฟิศ สำนักงานในเมืองส่วนใหญ่ จึงเป็นร้านที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน (Average check) ที่สูงกว่าย่านออฟฟิศสำนักงานนอกเมือง
.
ทำเลที่พักอาศัยก็เหมือนทำเลออฟฟิศสำนักงานที่มีกำลังซื้อต่างกันในแต่ละทำเล ทำเลที่พักอาศัยที่อยู่ในเมืองเช่น รัชดา ลาดพร้าว ทองหล่อ เลียบด่วน-รามอินทรา ก็จะมีกำลังซื้อต่อหัวมากกว่า ทำเลที่พักอาศัยนอกเมืองเช่น รังสิต ตลิ่งชัน ลาดกระบัง
.
ทำให้ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ทำเลเหล่านี้จะมีลักษณะแตกต่างกัน ถ้าคุณคิดจะเปิดร้านอาหารปิ้งย่างหัวละ 250 บาทก็คงเลือกเปิดที่รังสิต ลาดกระบัง มากกว่า ทองหล่อ ลาดพร้าว ที่มีค่าเช่าแพงกว่าแน่นอน
.
เช่นเดียวกัน ถ้าคุณอยากเปิดร้านอาหารตะวันตกที่มีราคาต่อหัว 500 - 800 บาทก็คงไม่คิดจะเปิดที่รังสิตแน่นอน
.
ทำเลในห้างสรรพสินค้าเองก็มีทั้งนอกเมืองและในเมือง ซึ่งกลุ่มลูกค้าก็จะหลากหลายแตกต่างกัน กำลังซื้อในแต่ละทำเลก็จะแตกต่างกันออกไป ถ้าเราสังเกตให้ดีจะเห็นว่าร้านค้าที่เช่าอยู่ในห้างในเมืองและนอกเมืองจะมีความแตกต่างกันอยู่บ้าง และไม่ใช่ทุกห้างที่จะมีลูกค้าตลอดทั้งวัน ยิ่งเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ด้วยแล้ว บางแห่งอาจแทบไม่มีลูกค้าเลย
.
ก่อนจะตัดสินใจเช่าพื้นที่ในห้างใด อย่าลืมดูช่วงเวลาที่ขายได้ รวมไปถึงวันธรรมดาและวันหยุดด้วย
.
ทำเลสถานที่ราชการและสถานศึกษาจะเป็นทำเลที่กลุ่มลูกค้าอาจมีกำลังซื้อไม่สูงมากนัก แต่มีจำนวนที่มาก
.
ร้านอาหารที่อยู่ในย่านนี้ไม่ควรตั้งอยู่ไกลจากวิถีที่จะเดินได้ เพราะลูกค้ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเดินทางด้วยรถประจำทางสาธารณะมากกว่ารถยนต์ส่วนตัว ซึ่งวิสัยการเดินของคนไทยนั้นโดยปกติไม่ควรเกิน 200 - 300 เมตรโดยประมาณเนื่องจากสภาพอากาศที่เป็นเมืองร้อน
.
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ทำเลสถานที่ราชการต่างจากสถานศึกษาก็คือ สถานศึกษาจะมีช่วงปิดเทอมไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ซึ่งอยู่ประมาณ 3 - 4 เดือนต่อปีได้ ซึ่งทำให้กระทบต่อการดำเนินธุรกิจโดยตรง
.
ฉะนั้น ถ้ามีความต้องการที่จะทำร้านอาหารในทำเลสถานศึกษา ก็อย่าลืมคำนึงถึงกลุ่มลูกค้ารองด้วย ที่จะเป็นคนทำให้เราอยู่ได้ในช่วงปิดเทอม หรืออาจมีการต่อรองเรื่องสัญญาเช่ากับผู้ให้เช่าล่วงหน้าถึงข้อจำกัดนี้
